เซลล์พืช

เซลล์พืช อยู่ในรูปแบบของหน่วยสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดและเป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อในพืช ภายในเซลล์พืชมีสิ่งสำคัญที่ช่วยให้พืชทำงานได้อย่างประสิทธิภาพ และมีส่วนประกอบหลายอย่างที่มีหน้าที่แตกต่างกัน เช่น ส่วนที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ เช่น ส่วนสมองของเซลล์ (เซลล์นิวรอน) และส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์อาหาร ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสารอาหารและน้ำ และอื่น ๆ และเซลล์พืชมีความสำคัญและหน้าที่อะไรบ้าง

 

เซลล์พืช ภาษาอังกฤษ หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์

เซลล์พืช ภาษาอังกฤษ มีชื่อเรียกว่า Plant Cell และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์แบบเดียวกัน แต่สำหรับภายในเซลล์จะมีชื่อเรียกของส่วนประกอบต่างๆ ที่แตกต่างกัน ซึ่งภายในเซลล์ก็เป็นส่วนประกอบที่ช่วยทำงานและมี หน้าที่ของเซลล์พืช ที่แตกต่างกัน และเซลล์พืชมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันไปตามหน้าที่และส่วนประกอบของพืช อาจมีเซลล์ที่เรียงตัวเป็นเยื่อ หรือมีเซลล์เดี่ยวๆ ด้วยตัวเอง รูปร่างของเซลล์พืชอาจเป็นรูปร่างกลม รูปร่างกลมแบน หรือรูปร่างเส้นใย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและฟังก์ชันของเซลล์นั้นๆ

ส่วนประกอบของเซลล์พืช ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ส่วนประกอบของเซลล์พืช หลักๆของเซลล์พืชส่วนใหญ่จะมีอยู่ทั้งหมด 9 ส่วนประกอบ พร้อม เซลล์พืช ภาษาอังกฤษ ที่เป็นชื่อเรียกของแต่ละส่วนประกอบ และส่วนประกอบทั้งหมดนี้ก็จะมี หน้าที่ของเซลล์พืช ทำงานประสานกัน เพื่อให้พืชสามารถมีชีวิตอยู่ได้ และสร้างออกซิเจนให้มนุษย์สามารถหายใจ เป็นประโยชน์ให้กับมนุษย์ต่อไป

  • ผนังเซลล์ (Cell wall)
  • เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane)
  • นิวเคลียส (Nucleus)
  • ไซโทพลาซึม(Cytoplasm)
  • ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic Reticulum)
  • แวคิวโอล (Vacuole)
  • คลอโรพลาสต์ (Chloroplast)
  • ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria)
  • กอลจิบอดี (Golgi Body) หรือกอลจิแอพพาราตัส (Golgi Apparatus)

และเซลล์พืชอาจจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันไปได้ตามสภาพแวดล้อมที่พืชอาศัยอยู่ เช่น เซลล์พืชที่อาศัยในสภาวะแห้งและน้ำจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น เซลล์พืชที่อยู่ในสภาวะแห้งอาจมีความต้านทานการสูญเสียน้ำสูงขึ้น ในขณะที่เซลล์พืชที่อยู่ในสภาวะน้ำมีความยืดหยุ่นในการรับน้ำและทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มของสารละลายได้ดีกว่า

นอกจากนี้ ส่วนประกอบเซลล์พืช เซลล์สัตว์ ก็ยังมีความแตกต่างกันไปอีกตามหน้าที่และส่วนประกอบที่แตกต่างกัน แต่โครงสร้างพื้นฐานหรือองค์ประกอบส่วนใหญ่ทั้งของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์จะคล้ายคลึงกัน

 

หน้าที่ของเซลล์พืช ของแต่ละส่วนประกอบ

  • ผนังเซลล์ (Cell wall) เป็นส่วนที่อยู่ด้านนอกสุดของเซลล์จะสามารถพบได้ในเซลล์พืชแต่ไม่พบในเซลล์สัตว์เป็นโครงสร้างที่จะเป็นตัวกำหนดขอบเขตรูปร่างของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ และตามชื่อของมันที่เป็นผนังก็มีไว้เพื่อเสริมความแข็งแรงและเป็นโครงสร้างหลักของเซลล์เพื่อให้เซลล์นั้นสามารถคงรูปร่างและป้องกันการสูญเสียของน้ำ
  • เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) เยื่อหุ้มเซลล์จะมีโปรตีนเป็นจำนวนมากและทำหน้าที่ในการหุ้มส่วนที่เป็นของเหลวของเซลล์ภายในทั้งหมดและยังสามารถทำการควบคุมการเข้าออกของสารต่างๆที่เข้าสู่เซลล์ได้ด้วย
  • นิวเคลียส (Nucleus) มีลักษณะกลมและอยู่ภายในผนังของเซลล์และเยื่อหุ้มของเซลล์อีกทีนึงมีหน้าที่ในการควบคุมการทำงานของเซลล์และยังสามารถทำการถ่ายทอดพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลานของเซลล์ได้
  • ไซโทพลาซึม(Cytoplasm) เป็นของเหลวต่างๆที่อยู่ภายในเซลล์ซึ่งจะประกอบด้วยสารต่างๆเช่นน้ำตาล โปรตีนและไขมัน
  • ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic Reticulum) จะมีลักษณะเป็นรูปแบบผิวขรุขระกับแบบเรียบซึ่งผิวแบบเรียบนั้นจะไม่มีไรโบโซมแต่ที่มีรูปลักษณ์แบบขรุขระจะมีไรโบโซมเกาะอยู่ซึ่งเป็นแหล่งสร้างโปรตีนและยังทำหน้าที่ส่งโปรตีนออกไปนอกเซลล์
  • แวคิวโอล (Vacuole) มีลักษณะเป็นถุงขนาดใหญ่และมีเยื่อหุ้มเพียงชั้นเดียวจะทำหน้าที่เก็บของเหลวและน้ำรวมไปถึงสารอินทรีย์และอนินทรีย์ต่างๆเช่นน้ำตาลกรดอินทรีย์ หรือ แทนนิน
  • คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) จะมีลักษณะเป็นสีเขียวและมีหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงซึ่งนั่นก็คือคลอโรฟิลล์นั่นเอง
  • ไมโทคอนเดรีย (Mitochondria) ลักษณะจะมีรูปร่างใหญ่และเรียวยาวกลมรีมีหน้าที่ในการหายใจระดับเซลล์ หรือเป็นตัวที่เปลี่ยนกลูโคสให้เป็นพลังงานที่เซลล์จะนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ
  • กอลจิบอดี (Golgi Body) หรือกอลจิแอพพาราตัส (Golgi Apparatus) จะมีลักษณะเป็นถุงแบนๆที่วางซ้อนกันและมีหน้าที่เก็บสารต่างๆไว้ภายในและจัดการตัดแต่งต่อเติมโปรตีนให้สมบูรณ์จากนั้นจึงจะเคลื่อนย้ายไปสู่จุดหมายปลายทางต่างๆภายในเซลล์และรวมไปถึงนอกเซลล์ด้วย

เซลล์พืชมีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันไปตามหน้าที่และส่วนประกอบของพืช อาจมีเซลล์ที่เรียงตัวเป็นเยื่อ หรือมีเซลล์เดี่ยวๆ ด้วยตัวเอง รูปร่างของเซลล์พืชอาจเป็นรูปร่างกลม รูปร่างกลมแบน หรือรูปร่างเส้นใย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชและฟังก์ชันของเซลล์นั้นๆ และนอกจากเซลล์พืชแล้ว ส่วนประกอบเซลล์พืช เซลล์สัตว์ ยังมีความแตกต่างกันและ เซลล์พืช เซลล์สัตว์ ต่างกันอย่างไร เซลล์พืชและเซลล์สัตว์ต่างกันอย่างมากตั้งแต่ลักษณะทางกายภาพจนถึงหน้าที่และการทำงานของเซลล์ ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกัน เซลล์พืชมีผนังเซลล์ที่หนาและแข็งแรง ซึ่งประกอบด้วยสารเยื่อบริเวณเซลล์ (cellulose) ทำให้เซลล์มีความแข็งแรงและรองรับได้ นอกจากนี้เซลล์พืชมีเมื่องข้อยืดที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ เช่น เซลล์สายเลือดในพืช (เช่น เซลล์ใยเลือด) แต่ เซลล์สัตว์ไม่มีผนังเซลล์แต่มีเยื่อบริเวณเซลล์ที่ช่วยให้เซลล์เสถียรและรับแรงกดได้ นอกจากนี้เซลล์สัตว์มีลักษณะเฉพาะเช่นการมีเซลล์เส้นใย (เช่น เซลล์เส้นใยกล้ามเนื้อ) หรือการมีคลื่นจากเซลล์เลือด (เช่น เซลล์เลือดแดง) เป็นต้น

และนอกจากนี้ รูปเซลล์พืช เซลล์สัตว์ ก็ยังมีลักษณะภายนอกที่เมื่อทำการส่องกล้องจุลทัศน์ดูที่มีความแตกต่างกันด้วยเช่นเดียวกัน โดยเซลล์พืชจะมีลักษณะคล้ายสี่เหลี่ยม และเซลล์สัวต์จะมีลักษณะคล้ายวงกลม

 

เซลล์พืชมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างพืชบนบก และ ในน้ำ

เซลล์พืชมีอะไรบ้าง เพราะเซลล์พืชนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ชนิดเดียว แต่โดยพื้นฐานหลักๆแล้วจะมีส่วนประคล้ายๆกัน ดังนั้นจึงจะยกตัวอย่างพืชบนบก และ ในน้ำ ที่มีส่วนประกอบและหน้าที่ที่แตกต่างกัน

ส่วนประกอบของเซลล์พืช บนบก พืชชนิดไม้

  • เซลล์เปลือกเซลล์ (Epidermal cells) เป็นเซลล์ที่ปกคลุมผิวของต้นไม้ มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อภายในจากการแห้งหรือการเข้าทำลายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก
  • เนื้อเยื่อท่อลำเลียง (Vascular tissue) ประกอบด้วยเซลล์ท่อที่มีหน้าที่ในการส่งน้ำและสารอาหารไปยังส่วนต่างๆ ของพืช เช่น เซลล์ท่อลำเลียงน้ำ (xylem) และเซลล์ท่อลำเลียงอาหาร (phloem)
  • เซลล์เยื่อส่งผลิต (Meristem cells) เป็นเซลล์ที่มีความสามารถในการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อใหม่ มีหน้าที่ในการเพิ่มขนาดและยาวของพืช

เซลล์พืชในน้ำ พืชที่อาศัยในน้ำ

  • เซลล์พืชสีเขียว (Chlorophyll cells) เซลล์ที่มีคลอโรฟิลล์ในเยื่อเซลล์ เป็นที่สังเคราะห์แสงที่ต้องการสำหรับการสังเคราะห์แสงในกระบวนการสังเคราะห์อาหารของพืช
  • เซลล์ส่วนเนื้อเยื่อ (Parenchyma cells) เซลล์ที่มีรูปร่างเป็นแบบที่ว่ากัน เมื่อพบในพืชในน้ำเขาจะมีหน้าที่ในการเก็บอาหาร การควบคุมความลับน้ำและความลับคาร์โบไฮเดรตในพืช
  • เซลล์ลำต้นและใบในใบและลำต้น (Sclerenchyma cells) เป็นเซลล์ที่มีเซลล์แข็งแรงและทนทาน เป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยให้ลำต้นและใบของพืชในน้ำเป็นแข็งแรงและยืดหยุ่นได้

 

เซลล์พืช สรุป แล้วมีความสำคัญกับมนุษย์อย่างไร

เซลล์พืช สรุป คือ เซลล์พืชคือหน่วยส่วนที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิตในพืช มีส่วนประกอบ หน้าที่ และลักษณะที่แตกต่างกัน แต่จะทำหน้าที่ประสานกัน เซลล์พืชมีความสำคัญต่อมนุษย์ในหลายด้าน เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสร้างและสังเคราะห์อาหาร และมีผลต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

การสร้างอาหารของพืชจากการเป็นตัวรับของแสงที่ทำให้พืชสามารถสังเคราะห์แสงและสร้างอาหารในกระบวนการสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ได้ พืชผลิตอาหารให้กับมนุษย์และสัตว์ทั้งในรูปแบบของผัก ผลไม้ และซาหริ่ม ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและส่งเสริมสุขภาพของมนุษย์

พืชผลิตออกซิเจนในกระบวนการสังเคราะห์แสง และดูดคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ ซึ่งมนุษย์สามารถหายใจออกซิเจนที่พื้นผิวใบพืชได้ การมีพืชมากพอในสิ่งแวดล้อมทำให้มีออกซิเจนเพียงพอสำหรับความต้องการของมนุษย์และสัตว์

พืชเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศที่สร้างสรรค์ พืชช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ และช่วยลดการเกิดภูมิอากาศร้อนโดยการดูดก๊าซเรือนกระจกเข้าไปในเซลล์

พืชมีคุณสมบัติในการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อที่มีความหลากหลาย ซึ่งมนุษย์ใช้เซลล์พืชเพื่อการผลิตวัสดุต่างๆ เช่น ไม้เพื่อการก่อสร้าง ใยในสิ่งทอ และพืชที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง

เซลล์พืชมีสารสกัดที่มีสรรพคุณทางการแพทย์และเป็นวิสัยทัศน์ในการค้นหายาใหม่ นอกจากนี้ยังมีการใช้พืชเป็นต้นแบบในการสร้างยาเพื่อรักษาโรคต่างๆ

ดังนั้นแล้วเซลล์พืชมีบทบาทสำคัญในการสร้างอาหาร การสร้างสภาพแวดล้อม และให้ความสะดวกแก่มนุษย์ในหลายด้านข้างต้น

 

สามารถอัพเดตเรื่องราววิทยาศาสตร์อื่นๆที่น่าสนใจได้เพิ่มเติม

พันธุศาสตร์ สายพันธุ์และการสืบพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต

การค้นพบวิทยาศาสตร์ มีที่มาที่ไปอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร

สิ่งแวดล้อม รอบตัวมนุษย์และความสำคัญ

วิทยาศาสตร์น่ารู้ การเรียนวิทยาศาสตร์สนุกกว่าที่คิด


สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่

http://www.dsr-cpas.com